"นางสาวไทย" แท้ง !!! สิ้นสุดขาอ่อน ระดับชาติ!
22 มี.ค. 2550 11:21 น.
ในขณะที่เวทีโชว์ขาอ่อนของช่องสถานีอื่นๆ กำลังครึกครื้นไม่ว่าจะเป็นเวทีมิสไทยแลนด์ยูนิเวอร์ ของทางช่อง 7 ที่ใกล้จะทราบว่าสาวคนไหนจะได้เป็นผู้ครอบครองมงกุฎแห่งความภูมิใจนี้ ในขณะเดียวกันเวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ที่ไทยทีวีสีช่อง 3 รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ ก็กำลังจะเปิดฉากขึ้นในไม่ช้านี้เช่นกัน แต่เวทีแห่งความภาคภูมิใจของคนไทย และถือเป็นเวทีประชันขาอ่อนเวทีแรกๆ ของเมืองไทย อย่างการประ กวดนางสาวไทย หรือที่ใช้ชื่อในอดีตว่านางสาวสยาม กลับจะไม่ได้เกิดขึ้นในปีนี้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ทางช่องไอทีวีในอดีตเคยรับเป็นเจ้าภาพจัดการประกวดขึ้น และสืบเนื่องมาจนปัจจุบัน แต่หลังจากที่ไอทีวีต้องเปลี่ยนสถานภาพและเปลี่ยนชื่อมาเป็นทีไอทีวีตามที่เป็นข่าวมาแล้ว วี่แววของการจัดประกวดเวทีนางสาวไทยที่ก่อนหน้านี้ได้เคยผลิตสาวสวยที่ทั้งเก่งและสวยมาหลายต่อหลายคนคงจะเกิดขึ้นได้ยาก ซึ่งสาเหตุหลักๆ จากการเปิดเผยของแหล่งข่าววงในที่เชื่อถือได้ ก็ได้ให้เหตุผลที่ทางทีไอทีวีไม่สามารถจะจัดการประกวดเวทีนางสาวไทยในปีนีร้ เนื่องจากไอทีวีไม่ได้มีอำนาจในการครอบครองสถานีโทรทัศน์ไอทีวีเหมือนในอดีตอีกต่อไป และอีกปัจจัยก็เพราะไอทีวีได้เปลี่ยนมือผู้ครอบครองจากบริษัท ไอทีวี จำกัด ( มหาชน ) มาเป็นกรมประชาสัมพันธ์ แต่ที่นอกเหนือไปมากกว่านั้นก็คือ ทางคณะรัฐมนตรี ( ครม. ) ยังไม่สามารถจะสรุปตัวผู้ที่จะมานั่งแท่นเป็นผู้บริหารของทีไอทีวีได้ ดังนั้นการจัดประกวดต่างๆ ที่เคยจัดขึ้นในสมัยที่ไอทีวียังครอบครองสถานีโทรทัศน์ จึงไม่สามารถจะหาข้อสรุปได้ ส่วนอีกปัจจัยที่น่าทำให้การประกวดนางสาวไทยในปีนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นมาได้ ก็คือเรื่องของผู้สนับสนุนหรือสปอร์เซอร์ ที่ตามปกติทางกองประกวดจะเซ็นสัญญากับสปอร์เซอร์แบบปีต่อปี ดังนั้นในสถานการณ์ที่ทีไอทีวีเป็นแบบนี้ จึงยากที่จะหาความเชื่อมั่นจากบรรดาสปอร์เซอร์ที่ต้องใช้เม็ดเงินจำนวนมหาศาลได้ อีกอย่างการที่ใครจะลุกขึ้นมารับเป็นโต้โผจัดงานระดับประเทศนี้แบบนี้ จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมากๆ หรือถ้าหากทางผู้หลักผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบในทีไอทีวีจะหันมาให้ความสำคัญในการจัดการประกวดที่ถือเป็นประเพณีที่สำคัญของช่องทีไอทีวี และของผู้ชมที่ติดตามการประกวดนี้มาตั้งแต่ต้น คงต้องตามข่าวการจัดการประกวดเวทีนางสาวไทยประจำปี 2550 นี้กันต่อไปว่าจะมีเกิดขึ้นหรือไม่ และผู้ใหญ่โดยเฉพาะผู้บริหารชุดใหม่ที่รอการแต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรีจะหาทางออกให้กับปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิด
